แชร์

ขับรถในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ถือว่าเมาสุรา

อัพเดทล่าสุด: 4 ธ.ค. 2025
8 ผู้เข้าชม

ขับรถในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ถือว่าเมาสุรา

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2567

 

คำพิพากษาย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 3 เดือน และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าจำเลยขับรถบรรทุกสิบล้อในเขตเทศบาลนครแหลมฉบังซึ่งเป็นเขตชุมชนและมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 156 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุหรือทำอันตรายแก่บุคคลอื่นเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจลงโทษสถานเบากว่าโดยให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

 

คำพิพากษาย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 160 ตรี, 162 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102, 111, 127 ทวิ และขอให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยตามกฎหมาย

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (2), 160 ตรี วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102 (3), 127 ทวิ วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 ตรี วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทนมีกำหนด 3 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ มีกำหนด 6 เดือน

 

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาแต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติว่า วันเกิดเหตุขณะจำเลยปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถขับรถบรรทุกสิบล้อซึ่งเป็นรถการขนส่ง ไปตามถนนคู่ขนานสาย 7 ตำบลหนองขาม (เขตเทศบาลแหลมฉบัง) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขณะมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 156 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและให้ถือว่าเมาสุรา

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 มานั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ก่อนเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน คงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 3 เดือน และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลจึงมีอำนาจใช้ดุลพินิจให้ลงโทษกักขังไม่เกินสามเดือนแทนโทษจำคุกนั้นก็ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ดังนั้น เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าจำเลยขับรถบรรทุกสิบล้อในเขตเทศบาลนครแหลมฉบังซึ่งเป็นเขตชุมชนและมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 156 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุหรือทำอันตรายแก่บุคคลอื่นเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจลงโทษสถานเบากว่าโดยให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

 

ผู้พิพากษา
สุภัทร์ สุทธิมนัส
เสถียร ศรีทองชัย
สิทธิชัย พูนเกษม

แหล่งที่มา: หนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา

 

สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ 

Youtube     https://youtu.be/V-GEBFORg4A?si=zVSl666kcydcLZW9

TikTok                  :https://www.tiktok.com/@lawyeraor/video/7534663181898173716?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7539731687648364033

ติดต่อทีมงานทนายอ้อได้ที่ ⬇️

Facebook        :https://www.facebook.com/share/1Bb1gYBdZc/?mibextid=wwXIfr

Tiktok               :https://www.tiktok.com/@lawyeraor

 Line                  :https://line.me/ti/p/NBw5dNkeFt

 เบอร์โทรศัพท์   : 081-755-5585 , 065-701-1441

 Website           : https://www.lawyer-aor.com/

 

#ฟ้องคดีรถชนกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีอุบัติเหตุกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีประกันภัยกับทนายอ้อ
#ทนายความคดีรถชน
#ทนายความคดีอุบัติเหตุ
#ฟ้องคดีรถชน
#ทนายความ
#ทนายอ้อ
#ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
#ฟ้องคดีละเมิด
#ปรึกษาทนายความคดีรถชนฟรี


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ