ขับรถในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ถือว่าเมาสุรา

ขับรถในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ถือว่าเมาสุรา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2567
คำพิพากษาย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 3 เดือน และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าจำเลยขับรถบรรทุกสิบล้อในเขตเทศบาลนครแหลมฉบังซึ่งเป็นเขตชุมชนและมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 156 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุหรือทำอันตรายแก่บุคคลอื่นเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจลงโทษสถานเบากว่าโดยให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 160 ตรี, 162 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102, 111, 127 ทวิ และขอให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (2), 160 ตรี วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102 (3), 127 ทวิ วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 ตรี วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทนมีกำหนด 3 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ มีกำหนด 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาแต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติว่า วันเกิดเหตุขณะจำเลยปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถขับรถบรรทุกสิบล้อซึ่งเป็นรถการขนส่ง ไปตามถนนคู่ขนานสาย 7 ตำบลหนองขาม (เขตเทศบาลแหลมฉบัง) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขณะมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 156 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและให้ถือว่าเมาสุรา
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 มานั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ก่อนเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน คงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 3 เดือน และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลจึงมีอำนาจใช้ดุลพินิจให้ลงโทษกักขังไม่เกินสามเดือนแทนโทษจำคุกนั้นก็ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 ดังนั้น เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าจำเลยขับรถบรรทุกสิบล้อในเขตเทศบาลนครแหลมฉบังซึ่งเป็นเขตชุมชนและมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 156 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุหรือทำอันตรายแก่บุคคลอื่นเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจลงโทษสถานเบากว่าโดยให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
ผู้พิพากษา
สุภัทร์ สุทธิมนัส
เสถียร ศรีทองชัย
สิทธิชัย พูนเกษม
แหล่งที่มา: หนังสือคำพิพากษาศาลฎีกา
สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่
Youtube : https://youtu.be/V-GEBFORg4A?si=zVSl666kcydcLZW9
TikTok :https://www.tiktok.com/@lawyeraor/video/7534663181898173716?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7539731687648364033
ติดต่อทีมงานทนายอ้อได้ที่ ⬇️
Facebook :https://www.facebook.com/share/1Bb1gYBdZc/?mibextid=wwXIfr
Tiktok :https://www.tiktok.com/@lawyeraor
Line :https://line.me/ti/p/NBw5dNkeFt
เบอร์โทรศัพท์ : 081-755-5585 , 065-701-1441
Website : https://www.lawyer-aor.com/
#ฟ้องคดีรถชนกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีอุบัติเหตุกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีประกันภัยกับทนายอ้อ
#ทนายความคดีรถชน
#ทนายความคดีอุบัติเหตุ
#ฟ้องคดีรถชน
#ทนายความ
#ทนายอ้อ
#ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
#ฟ้องคดีละเมิด
#ปรึกษาทนายความคดีรถชนฟรี


