แชร์

เหตุที่รถจำเลยไปชนท้ายรถโจทก์ ถือไม่ได้ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัย

อัพเดทล่าสุด: 27 พ.ย. 2025
2 ผู้เข้าชม

เหตุที่รถจำเลยไปชนท้ายรถโจทก์ ถือไม่ได้ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัย

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2668/2524

 

คำพิพากษาย่อสั้น

 จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเฉี่ยวชนท้ายรถคันหนึ่งแล้วก็ไม่สามารถหยุดได้ทันท่วงทีก่อนที่จะแล่นไปไปชนท้ายรถโจทก์ ซึ่งอยู่ห่างจุดที่รถเฉี่ยวชนประมาณ 25 เมตร กรณีเป็นเรื่องที่อาจป้องกันได้ถ้าจำเลยไม่ขับรถเร็วจนเกินไป ไม่เป็นเหตุสุดวิสัยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 8 จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม มาตรา 437

 

คำพิพากษาย่อยาว

 ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าก่อนรถยนต์จำเลยชนท้ายรถยนต์โจทก์ รถจำเลยได้เฉี่ยวชนท้ายรถยนต์นายบักกุ้ง แซ่ลี ก่อนคดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า การที่รถยนต์จำเลยชนท้ายรถยนต์โจทก์ เกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือไม่

ศาลฎีกาได้พิเคราะห์ปัญหาดังกล่าวแล้ว เห็นว่า แม้จะฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยนำสืบว่า นายบักกุ้งขับรถบรรทุกแซงรถคันอื่นในระยะกระชั้นชิดกับขณะที่กำลังจะสวนกับรถจำเลย รถนายบักกุ้งล้ำเข้ามาในเส้นทางของจำเลย เมื่อแซงพ้นคันที่ตนแซงแล้ว นายบักกุ้งได้ขับรถเลี้ยวเข้าเส้นทางของตนแต่ท้ายรถยังไม่พ้น รถจำเลยจึงได้เฉี่ยวชนท้ายรถนายบักกุ้งแล้วแล่นไปชนท้ายรถโจทก์ ดังที่จำเลยนำสืบก็ตาม แต่ก็ปรากฏในแผนที่เกิดเหตุเอกสารหมาย ล.1 ที่จำเลยนำชี้ว่า หลังจากรถจำเลยเฉี่ยวชนท้ายรถนายบักกุ้งแล้ว จำเลยได้ขับรถเลี้ยวไปทางซ้ายอีก 9.20 เมตร ล้อรถด้านซ้ายของรถจำเลยทั้งล้อหน้าและล้อหลังได้ปืนขึ้นไปบนทางเท้าซึ่งสูงกว่าพื้นถนนตามคำเบิกความของจำเลยว่าประมาณ 8 นิ้วฟุต แล้วมีรอยครูดไปกับพื้นถนนและทางเท้าเป็นทางยาว 16.50 เมตร 2 เส้นขนานกันน่าเชื่อว่าเกิดจากการที่จำเลยห้ามล้อรถ แล้วรถของจำเลยไปจอดอยู่หน้ารถติดกับเสาไฟฟ้าซึ่งตั้งอยู่ริมทางเท้าติดกับขอบถนน และเมื่อพิเคราะห์ภาพถ่ายรอยบุบและชำรุดของท้ายรถโจทก์กับหน้ารถจำเลยในสำนวนการสอบสวนซึ่งส่งมาจากสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีแล้วเห็นว่า รอยบุบและชำรุดที่เกิดจากการชนกันนี้มิใช่เล็กน้อย แสดงว่ารถของจำเลยแล่นมาชนท้ายรถโจทก์โดยแรง พฤติการณ์ดังกล่าวมีเหตุผลเชื่อว่า จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูงจนกระทั่งเมื่อเฉี่ยวชนท้ายรถนายบักกุ้งแล้ว จำเลยก็ไม่สามารถหยุดได้ทันท่วงทีก่อนที่จะแล่นไปชนท้ายรถโจทก์ ซึ่งโจทก์อยู่ห่างจุดที่รถจำเลยเฉี่ยวชนรถนายบักกุ้งถึงประมาณ 25 เมตร กรณีเป็นเรื่องอาจป้องกันได้ ถ้าจำเลยไม่ขับรถเร็วจนเกินไป เหตุที่รถจำเลยไปชนท้ายรถโจทก์ เพราะจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูง ถือไม่ได้ว่า เกิดจากเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8 จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437" ฯลฯ

"พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 27,750 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยชำระเงินให้โจทก์เสร็จ กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลโดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาทแทนโจทก์ สำหรับค่าขึ้นศาลให้จำเลยใช้เพียงเท่าที่โจทก์ชนะ"

 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437

ผู้พิพากษา
บรรเทอง ภู่กฤษณา
ชลูตม์ สวัสดิทัต
วัฒน์ ผดุงจิตร

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

 

สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ 

Youtube    https://youtu.be/9aXzoCeSKj4?si=eVUwIbUkzXsuAqot

TikTok                  :https://www.tiktok.com/@lawyeraor/video/7460394062382779655?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7539731687648364033

ติดต่อทีมงานทนายอ้อได้ที่ ⬇️

Facebook        :https://www.facebook.com/share/1Bb1gYBdZc/?mibextid=wwXIfr

Tiktok               :https://www.tiktok.com/@lawyeraor

Line                  :https://line.me/ti/p/NBw5dNkeFt

เบอร์โทรศัพท์   : 081-755-5585 , 065-701-1441

Website           :https://www.lawyer-aor.com/

 

#ฟ้องคดีรถชนกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีอุบัติเหตุกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีประกันภัยกับทนายอ้อ
#ทนายความคดีรถชน
#ทนายความคดีอุบัติเหตุ
#ฟ้องคดีรถชน
#ทนายความ
#ทนายอ้อ
#ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
#ฟ้องคดีละเมิด
#ปรึกษาทนายความคดีรถชนฟรี


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ