ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิด ผู้รับประกันภัยค้ำจุนก็ไม่ต้องรับผิด 6
อัพเดทล่าสุด: 29 พ.ค. 2024
136 ผู้เข้าชม

ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิด ผู้รับประกันภัยค้ำจุนก็ไม่ต้องรับผิด 6
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2527
คำพิพากษาย่อสั้น
ห้าง ศ. เป็นคู่สัญญาเอาประกันภัยรถยนต์ไว้แก่จำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อรถดังกล่าวจากห้าง ศ. เป็นผู้ออกเบี้ยประกันภัยตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อจำเลยที่ 1 จึงหาใช่ผู้เอาประกันภัยตามความหมายของมาตรา 862 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันจะทำให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 887 ไม่
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน พ.บ.08753 ไว้จาก ส. จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน น.ฐ.26882 ซึ่งเอาประกันภัยไว้แก่จำเลยที่ 2 ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ขับรถของจำเลยที่ 1 ไปในทางการที่จ้างโดยประมาทชนรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้เสียหาย โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้วจึงรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้คดีหลายประการ และต่อสู้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์หมายเลขทะเบียน น.ฐ.26882 ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีพูนทรัพย์ ไม่ใช่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้องให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2
โจทก์อุทธรณ์ข้อให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ผู้เอาประกันภัยรถยนต์คันก่อเหตุคือห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีพูนทรัพย์ ไม่ใช่จำเลยที่ 1 แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าที่โจทก์ฎีกาว่าเมื่อฟังว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกเบี้ยประกันภัย ก็ถือได้ว่าเป็นผู้เอาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 862 ซึ่งบัญญัติว่า "ผู้เอาประกันภัย" หมายความว่าคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตกลงจะส่งเบี้ยประกันภัยนั้น เห็นว่า กรณีเรื่องนี้จำเลยที่ 1 เป็นเพียงผู้ออกเบี้ยประกันภัยโดยมิใช่คู่สัญญากับจำเลยที่ 2 หากแต่ห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีพูนทรัพย์เป็นคู่สัญญาเอาประกันภัยรถยนต์ไว้แก่จำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 1 ออกเบี้ยประกันภัยตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อข้างต้นเท่านั้น จำเลยที่ 1 จึงหาใช่ผู้เอาประกันภัยตามความหมายแห่งมาตรา 862 ดังกล่าว อันจะทำให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 887 ไม่
พิพากษายืน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 862
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ผู้พิพากษา
โกวิท สุนทรขจิต
กิติ บูรพรรณ์
ประการ กาญจนศูนย์
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2527
คำพิพากษาย่อสั้น
ห้าง ศ. เป็นคู่สัญญาเอาประกันภัยรถยนต์ไว้แก่จำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อรถดังกล่าวจากห้าง ศ. เป็นผู้ออกเบี้ยประกันภัยตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อจำเลยที่ 1 จึงหาใช่ผู้เอาประกันภัยตามความหมายของมาตรา 862 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันจะทำให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 887 ไม่
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน พ.บ.08753 ไว้จาก ส. จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน น.ฐ.26882 ซึ่งเอาประกันภัยไว้แก่จำเลยที่ 2 ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ขับรถของจำเลยที่ 1 ไปในทางการที่จ้างโดยประมาทชนรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้เสียหาย โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้วจึงรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้คดีหลายประการ และต่อสู้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์หมายเลขทะเบียน น.ฐ.26882 ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีพูนทรัพย์ ไม่ใช่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้องให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2
โจทก์อุทธรณ์ข้อให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ผู้เอาประกันภัยรถยนต์คันก่อเหตุคือห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีพูนทรัพย์ ไม่ใช่จำเลยที่ 1 แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าที่โจทก์ฎีกาว่าเมื่อฟังว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกเบี้ยประกันภัย ก็ถือได้ว่าเป็นผู้เอาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 862 ซึ่งบัญญัติว่า "ผู้เอาประกันภัย" หมายความว่าคู่สัญญาฝ่ายซึ่งตกลงจะส่งเบี้ยประกันภัยนั้น เห็นว่า กรณีเรื่องนี้จำเลยที่ 1 เป็นเพียงผู้ออกเบี้ยประกันภัยโดยมิใช่คู่สัญญากับจำเลยที่ 2 หากแต่ห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีพูนทรัพย์เป็นคู่สัญญาเอาประกันภัยรถยนต์ไว้แก่จำเลยที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 1 ออกเบี้ยประกันภัยตามข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อข้างต้นเท่านั้น จำเลยที่ 1 จึงหาใช่ผู้เอาประกันภัยตามความหมายแห่งมาตรา 862 ดังกล่าว อันจะทำให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามมาตรา 887 ไม่
พิพากษายืน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 862
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ผู้พิพากษา
โกวิท สุนทรขจิต
กิติ บูรพรรณ์
ประการ กาญจนศูนย์
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
บทความที่เกี่ยวข้อง


