ถ้าในสัญญามิได้กำหนดเป็นอย่างอื่น สิทธิอันมีอยู่ในสัญญาย่อมโอนตามไปด้วย

ถ้าในสัญญามิได้กำหนดเป็นอย่างอื่น สิทธิอันมีอยู่ในสัญญาย่อมโอนตามไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2524
คำพิพากษาย่อสั้น
โจทก์รับประกันภัยรถยนต์ซึ่ง ส. ได้ให้ ก. เช่าซื้อไว้ แม้สัญญาประกันภัยจะได้กระทำในนาม ส. ผู้เอาประกันก็ตาม แต่ ก. ได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วก่อนสัญญาประกันภัยสิ้นสุดลงกรรมสิทธิ์ในรถยนต์จึงโอนจาก ส.ไปเป็นของ ก. แล้ว เมื่อรถยนต์หายไปเพราะการกระทำของจำเลย และโจทก์ยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ ก. จึงเป็นการยอมรับว่าสิทธิอันมีอยู่ตามสัญญาประกันภัยได้โอนไปยัง ก.แล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของ ก. ผู้เอาประกันภัยที่จะฟ้องจำเลยให้รับผิดได้
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับประกันภัยรถยนต์ของนางกิมกี่ไว้ นางกิมกี่เช่าซื้อรถยนต์คันนี้มาจากห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงฟ้า นางกิมกี่นำรถยนต์ไปล้างอัดฉีดที่ปั๊มน้ำมันของจำเลย แล้วรถยนต์หายไปในระหว่างที่อยู่ในความครอบครองของจำเลย โจทก์ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยจึงรับช่วงสิทธิไล่เบี้ยเอาค่าเสียหายจากจำเลย ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยให้การว่า ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงฟ้าเป็นผู้เอาประกันภัย นางกิมกี่ไม่ใช่เจ้าของรถ ไม่มีสิทธิเอาประกันภัยไว้แก่โจทก์ จำเลยไม่เคยทำรถยนต์คันนี้หาย โจทก์ไม่มีหน้าที่จะจ่ายเงินให้นางกิมกี่ซึ่งไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ ถึงแม้จ่ายไปจริงก็ถือไม่ได้ว่าจ่ายให้แก่ผู้เอาประกันภัย จึงไม่ก่อให้เกิดการรับช่วงสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่านางกิมกี่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัย โจทก์ไม่มีหน้าที่ใช้เงินค่าสินไหมทดแทนให้นางกิมกี่เพราะไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกันโจทก์ไม่อาจเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยที่จะฟ้องจำเลยทั้งสองให้รับผิดได้นั้น เห็นว่าแม้สัญญาประกันภัยรถยนต์คันพิพาทจะได้กระทำในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงฟ้าก็ตามแต่นางกิมกี่เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์คันนี้และได้ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วก่อนที่สัญญาประกันภัยสิ้นสุดลง กรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันพิพาทจึงโอนจากห้างหุ้นส่วนจำกัดแสงฟ้า ผู้เอาประกันภัยมาเป็นของนางกิมกี่ตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว และการที่โจทก์ผู้รับประกันภัยยอมตกลงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้นางกิมกี่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเช่นนี้ จึงเป็นการที่โจทก์ยอมรับว่าสิทธิอันมีอยู่ตามสัญญาประกันภัยนั้นได้โอนตามไปยังนางกิมกี่ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันที่เอาประกันภัยนั้นแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 875 วรรคสอง และเมื่อรถหายเพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้นางกิมกี่ไปแล้ว โจทก์ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของนางกิมกี่ผู้เอาประกันภัยที่จะฟ้องจำเลยให้รับผิดได้
พิพากษายืน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 875
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880
ผู้พิพากษา
เพียร ศรีอรุณ
ประสม ศรีเจริญ
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
Youtube : https://youtu.be/t09KXSUD6QY?si=-HUOt770Ge9LXyha
TikTok :https://www.tiktok.com/@lawyeraor/video/7471112824417307922?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7539731687648364033
Facebook :https://www.facebook.com/share/1Bb1gYBdZc/?mibextid=wwXIfr
Tiktok :https://www.tiktok.com/@lawyeraor
Line :https://line.me/ti/p/NBw5dNkeFt
เบอร์โทรศัพท์ : 081-755-5585 , 065-701-1441
Website :https://www.lawyer-aor.com/
#ฟ้องคดีรถชนกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีอุบัติเหตุกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีประกันภัยกับทนายอ้อ
#ทนายความคดีรถชน
#ทนายความคดีอุบัติเหตุ
#ฟ้องคดีรถชน
#ทนายความ
#ทนายอ้อ
#ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
#ฟ้องคดีละเมิด
#ปรึกษาทนายความคดีรถชนฟรี


