แชร์

ควรตรวจรถให้อยู่ในสภาพดีก่อนนำไปใช้ เหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย

อัพเดทล่าสุด: 27 พ.ย. 2025
1 ผู้เข้าชม

ควรตรวจรถให้อยู่ในสภาพดีก่อนนำไปใช้ เหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2518

 

คำพิพากษาย่อสั้น

จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นตำรวจ มีหน้าที่ขับรถยนต์ของทางราชการกรมตำรวจจำเลยที่ 3 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถจิ๊ปของจำเลยที่ 3 ไปราชการตามหน้าที่โดยมิได้ใช้ความระมัดระวังตรวจตราดูรถก่อนจะขับออกไปว่าฝากระโปรงครอบหน้ารถอยู่ในสภาพเรียบร้อยหรือไม่ เมื่อรถยนต์คันจำเลยที่ 1 ขับแล่นสวนทางกับรถยนต์คันที่ อ. ขับซึ่งมีโจทก์นั่งมาข้างหน้าด้วยฝากระโปรงครอบเครื่องยนต์หน้ารถคันจำเลยที่ 1 ขับได้หลุดไปปะทะกระจกหน้ารถคันที่โจทก์นั่ง แต่ทะลุไปถูกหน้าโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุที่ฝากระโปรงครอบเครื่องยนต์หน้ารถหลุดออกไปก็เพราะสปริงขอเกาะฝากระโปรงอ่อนและเบ้าที่รองรับโคนขอรั้งสึก ทำให้เบ้าหลวมเนื่องจากใช้มานานจึงเกิดการเสื่อมสภาพ เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปด้วยความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนพื้นถนนราดยางที่ไม่เรียบและมีลมพัดแรงจึงเกิดความสั่นสะเทือนอย่างแรง ทำให้ขอรั้งหลุดออกลมเข้าไปในฝากระโปรงหน้ารถเมื่อถูกลมแรงๆ จึงหลุดออกไปจากตัวรถซึ่งเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1 จะต้องระมัดระวังตรวจตราทำให้อยู่ในสภาพดีเสียก่อนนำไปใช้ และจำเลยที่ 1 ก็ทราบแต่หาได้จัดการอย่างใดไม่ดังนี้ เหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เพราะไม่ใช่กระโปรงหน้ารถอยู่ในสภาพแข็งแรงเรียบร้อยตามสภาพแล้วเกิดจากภัยนอกอำนาจซึ่งไม่อาจรู้และป้องกันได้ จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

 

คำพิพากษาย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์จิ๊ปของทางราชการไปในธุรกิจหน้าที่ราชการของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 ไม่ตรวจดูสภาพรถยนต์ และฝากระโปรงครอบเครื่องจักรกลของรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ควบคุมให้เรียบร้อย เมื่อจำเลยขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง แรงปะทะของลมทำให้ฝากระโปรงหน้ารถยนต์เปิดขึ้น และหักออกจากตัวรถหลุดลอยมากระทบกระจกบังลมหน้ารถยนต์คันที่โจทก์นั่งสวนทางมาแตกทะลุเลยเข้าไปถูกบริเวณใบหน้าโจทก์ เป็นบาดแผลสาหัส ขอให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนรวม 50,000 บาท

จำเลยทั้งสามให้การว่า เหตุที่เกิดขึ้นมิใช่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 แต่เป็นเหตุสุดวิสัยนอกเหนืออำนาจของจำเลยที่ 1 ที่จะรู้และป้องกันได้

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายค่าสินไหมทดแทน และค่ารักษาพยาบาลแก่โจทก์ 32,000 บาท

จำเลยที่ 1 ที่ 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ที่ 3 ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นตำรวจมีหน้าที่ขับรถยนต์ของทางราชการกรมตำรวจจำเลยที่ 3 วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถจิ๊ปของจำเลยที่ 3 ไปราชการ โดยมิได้ใช้ความระมัดระวังตรวจตราดูรถก่อนจะขับออกไปว่าฝากระโปรงครอบหน้ารถอยู่ในสภาพเรียบร้อยหรือไม่ เมื่อรถยนต์คันจำเลยที่ 1 ขับ แล่นสวนทางกับรถยนต์คันนางสาวอนันต์ขับ โดยมีโจทก์นั่งมาข้างหน้าด้วย ฝากระโปรงครอบเครื่องยนต์หน้ารถคันจำเลยที่ 1 ขับได้หลุดไปปะทะกระจกหน้ารถคันที่โจทก์นั่งแตกทะลุไปถูกหน้าโจทก์อย่างแรงเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุที่ฝากระโปรงครอบหน้ารถหลุดออกไปเกิดจากสปริงขอเกาะฝากระโปรงครอบหน้ารถอ่อน และเบ้าที่รองรับโคนขอรั้งสึกทำให้เบ้าหลวม เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปด้วยความเร็วชั่วโมงละ 50 - 60กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนพื้นถนนที่ไม่เรียบและมีลมพัดแรง จึงเกิดความสั่นสะเทือนอย่างแรง ทำให้ขอรั้งหลุดออก ลมเข้าไปในฝากระโปรงครอบหน้ารถได้ ฝากระโปรงครอบหน้ารถถูกลมแรง ๆ จึงหลุดออกไปจากตัวรถ แล้ววินิจฉัยว่าเป็นหน้าที่ของจำเลยที่ 1 จะต้องระมัดระวังตรวจตราทำให้อยู่ในสภาพดีเสียก่อนนำมาใช้ ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็ทราบแต่หาได้จัดการอย่างไรไม่ จะฟังว่าเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้ เพราะไม่ใช่กระโปรงครอบหน้ารถอยู่ในสภาพแข็งเรียบร้อยตามสภาพแล้วเกิดจากภัยนอกอำนาจซึ่งไม่อาจรู้และป้องกันได้ จำเลยที่ 1 และที่ 3 จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

พิพากษายืน

 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437

ผู้พิพากษา
ยงยุทธ เลอลภ
กฤษณ์ โสภิตกุล
ธวัช สิทธิชัย

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

 

สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ 

Youtube    https://youtu.be/iWdJnM0Wdvk?si=nXK_-Q2TYnUiX_vf

TikTok                  :https://www.tiktok.com/@lawyeraor/video/7460420202522496274?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7539731687648364033

ติดต่อทีมงานทนายอ้อได้ที่ ⬇️

Facebook        :https://www.facebook.com/share/1Bb1gYBdZc/?mibextid=wwXIfr

Tiktok               :https://www.tiktok.com/@lawyeraor

 Line                  :https://line.me/ti/p/NBw5dNkeFt

 เบอร์โทรศัพท์   : 081-755-5585 , 065-701-1441

 Website           :https://www.lawyer-aor.com/
 

 

#ฟ้องคดีรถชนกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีอุบัติเหตุกับทนายอ้อ
#ฟ้องคดีประกันภัยกับทนายอ้อ
#ทนายความคดีรถชน
#ทนายความคดีอุบัติเหตุ
#ฟ้องคดีรถชน
#ทนายความ
#ทนายอ้อ
#ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
#ฟ้องคดีละเมิด
#ปรึกษาทนายความคดีรถชนฟรี


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ