โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองจึงถือว่าไม่มีส่วนได้เสีย

โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองจึงถือว่าไม่มีส่วนได้เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2533
คำพิพากษาย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์คันเกิดเหตุซึ่งได้เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับจำเลยเท่านั้น จึงเป็นการกล่าวอ้างว่าโจทก์มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ เมื่อจำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว โจทก์ไม่มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกันภัย ประเด็นจึงมีเพียงว่าโจทก์มีส่วนได้เสียในฐานะที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยหรือไม่เท่านั้น ที่โจทก์นำสืบและฎีกาว่า เจ้าของรถยนต์คันที่โจทก์เอาประกันภัยไว้กับจำเลยได้นำรถยนต์คันดังกล่าวเข้าร่วมในกิจการของโจทก์โดยแบ่งผลประโยชน์กัน โจทก์จึงมีส่วนต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดด้วยนั้น เป็นเรื่องนอกคำฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ในขณะที่ทำสัญญาประกันภัย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์คันดังกล่าว กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงไม่ผูกพันคู่กรณีตาม ป.พ.พ. มาตรา 863 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้.
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 70-5364 กรุงเทพมหานคร จากโจทก์ ในระหว่างอายุสัญญาตามกรมธรรม์ประกันภัย นายสมศักดิ์ ชื่นแผ้ว ขับรถยนต์คันดังกล่าวของโจทก์ชนกับรถเก๋งส่วนบุคคลหมายเลขทะเบียน 6ข-2750 กรุงเทพมหานครเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย แล้วนายสมศักดิ์ได้หลบหนีไป รถยนต์หมายเลขทะเบียน 6ข-2750 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายไม่สามารถซ่อมแซมได้ โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายเจ้าของรถยนต์ได้ตกลงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บเป็นเงิน 200,000.00 บาท ซึ่งจำเลยต้องรับผิดชดใช้เงินดังกล่าวให้โจทก์ตามสัญญาประกันภัย โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่โจทก์ชดใช้เงินดังกล่าวให้แก่ผู้ตายและผู้บาดเจ็บ
จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะขณะเกิดเหตุโจทก์มิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรถยนต์คันที่เอาประกันภัย โจทก์จึงไม่มีส่วนได้เสียในตัวรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ จำเลยจึงไม่ผูกพันในสัญญาประกันภัยและไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ นายสมศักดิ์ผู้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยไม่ใช่ลูกจ้างหรือตัวแทนซึ่งปฏิบัติตามคำสั่งของโจทก์ โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดในเหตุละเมิดของนายสมศักดิ์ โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายหากจำเลยจะต้องรับผิดก็ไม่เกิน 100,000.00 บาท และต้องหักเงินที่โจทก์ค้างชำระเบี้ยประกันออกด้วย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยได้ทำสัญญารับประกันภัยรถคันพิพาทจากโจทก์มีกำหนดเวลา 1 ปี เดิมโจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว แต่ขณะทำสัญญาประกันภัย โจทก์ได้ขายรถยนต์นั้นให้แก่บุคคลอื่นไปแล้ว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน 70-5364 กรุงเทพมหานครซึ่งได้เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับจำเลยเท่านั้น ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าโจทก์นำรถยนต์คันดังกล่าวไปใช้ในกิจการของโจทก์อย่างไรอันจะมีผลให้โจทก์ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว จึงเป็นการกล่าวอ้างว่าโจทก์มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ เมื่อจำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว โจทก์ไม่มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เอาประกันภัย ประเด็นจึงมีเพียงว่าโจทก์มีส่วนได้เสียในฐานะที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยหรือไม่เท่านั้น ที่โจทก์นำสืบและฎีกาว่า เจ้าของรถยนต์คันที่โจทก์เอาประกันภัยไว้กับจำเลยได้นำรถยนต์คันดังกล่าวเข้าร่วมในกิจการของโจทก์โดยแบ่งผลประโยชน์กัน โจทก์จึงมีส่วนต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำละเมิดด้วยนั้น เป็นเรื่องนอกคำฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ในขณะที่ทำสัญญาประกันภัย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์คันดังกล่าว กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงไม่ผูกพันคู่กรณีแต่อย่างใด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แม้อำนาจฟ้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองปัญหาอื่นที่โจทก์ฎีกามาไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยพิพากษายืน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 246
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ผู้พิพากษา
บุญศรี กอบบุญ
เสียง ตรีวิมล
นิเวศน์ คำผอง
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


