น้ำป่าพัดสะพานพัง เป็นเหตุสุดวิสัย

น้ำป่าพัดสะพานพัง เป็นเหตุสุดวิสัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2531
คำพิพากษาย่อสั้น
เหตุสุดวิสัยหมายถึงเหตุใดๆ อันจะเกิดขึ้นและให้ผลพิบัติโดยไม่มีใครอาจจะป้องกันได้ การที่น้ำป่าพัดสะพานพัง ถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่กรณีระดับน้ำในแม่น้ำเมยสูงขึ้นเป็นสิ่งที่เป็นไปโดยปกติตามฤดูกาล โดยระดับน้ำในหน้าฝนจะสูงขึ้นเช่นนี้ทุกปี ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย.
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาแม่สอด เป็นเงิน 12,499,000.00 บาท มีข้อสัญญาว่าหากส่งมอบงานล่าช้ายอมให้จำเลยปรับวันละ 6,250.00 บาท เมื่อโจทก์ลงมือทำงานเกิดภาวะขาดแคลนปูนซิเมนต์ การทำงานของโจทก์จึงล่าช้า ต่อมาเกิดพายุฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าพัดสะพานพังการขนส่งอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้างต้องหยุดชะงัก ต่อมาในปีนั้นฝนตกมากกว่าปกติทุกปีทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น งานส่วนที่โจทก์ต้องทำในแม่น้ำจึงล่าช้าไป โจทก์ขอต่ออายุสัญญาไปอีก 7 เดือน โจทก์เพิกเฉย จำเลยทำงานเสร็จและขอเบิกค่าจ้างจำเลยหักค่าภาษีเงินได้และค่าปรับไว้เป็นเงิน 1,274,396.56 บาท แล้วลดค่าปรับให้โจทก์เพียง 10 วัน เป็นเงิน 62,500.00 บาท คงปรับโจทก์ 1,031,250.00 บาท ไม่คืนให้ ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ปูนซิเมนต์มีจำหน่ายพอเพียง มิใช่เหตุสุดวิสัย กรณีน้ำพัดสะพานพังแขวงการทางตากได้จัดการแก้ไขทำทางเบี่ยงให้รถแล่นผ่านได้ภายใน 10 วัน จำเลยจึงต่ออายุสัญญาให้โจทก์เพียง 10 วัน สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำที่ว่าสูงกว่าปกตินั้นเป็นเหตุการณ์ที่เป็นไปตามปกติธรรมชาติ โจทก์สามารถเล็งเห็นล่วงหน้าอยู่แล้ว มิใช่เหตุสุดวิสัย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยคืนเงินค่าปรับตามฟ้องแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า กรณีที่น้ำป่าพัดสะพานพังนั้นถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะเป็นเหตุใดๆ อันจะเกิดจะให้ผลพิบัติโดยไม่มีใครอาจจะป้องกันได้ ส่วนกรณีระดับน้ำในแม่น้ำเมยสูงขึ้นผิดปกติทำให้โจทก์ไม่สามารถสร้างบ่อชักน้ำและวางท่อ เอ.พี.ไอ ได้ทันกำหนด เป็นเหตุให้งานล่าช้านั้นเห็นว่า เหตุที่เกิดตามธรรมดาโลก เช่น น้ำท่วม หรือระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น ถ้าเป็นสิ่งที่เป็นไปตามปกติตามฤดูกาลโดยระดับน้ำในแม่น้ำเมยในหน้าฝนจะสูงขึ้นเช่นนี้ทุกปี ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8
ผู้พิพากษา
ชูเชิด รักตะบุตร์
สง่า ศิลปประสิทธิ์
ถาวร ตันตราภรณ์
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


