ทำสัญญายอมรับผิดถึงเหตุสุดวิสัยได้
ทำสัญญายอมรับผิดถึงเหตุสุดวิสัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2492
คำพิพากษาย่อสั้น
การทำสัญญายินยอมรับผิดตลอดถึงเหตุสุดวิสัยนั้น หาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใดไม่
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนข้าวไป 5,500 กระสอบ โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าจำเลยผิดสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยเหตุสุดวิสัยหรือเหตุใดใดก็ตาม จำเลยยอมใช้เบี้ยปรับให้แก่โจทก์เป็นเงิน 813,998.00 บาท ปรากฏว่าข้าวสารส่งถึงปลายทางเพียง 2605 กระสอบ ขาดไป 2895 กระสอบ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจให้จำเลยใช้เบี้ยปรับลดลงเป็นเงิน 400,000.00 บาทได้
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาสได้ยื่นคำร้องขออนุญาตนำข้าวสารไปจำหน่ายแก่ราษฎร จังหวัดนราธิวาสเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เนื่องจากขาดแคลนข้าวและได้สัญญาว่าจะส่งข้าวสารที่ได้รับอนุญาตให้ถึงปลายทางภายในระยะเวลาไม่ช้ากว่า 60 วันนับแต่วันได้รับอนุญาต หากจำเลยผิดสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใดๆก็ตามจำเลยยอมใช้เบี้ยปรับให้โจทก์ โจทก์อนุญาตให้จำเลยขนย้ายข้าวได้ จำเลยได้ขนย้ายข้าวไป แต่ข้าวสารถึงปลายทางไม่ครบจำนวน โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าปรับฐานผิดสัญญา จำเลยให้การต่อสู้ข้อเท็จจริงและตัดฟ้องว่า สัญญาขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี คู่ความรับกันว่า จำเลยส่งข้าวสารถึงจังหวัดนราธิวาสเพียง 2,605 กระสอบ ส่งขาดไป 2,895 กระสอบ แล้วศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์ จำเลย พิพากษาว่าข้าวสารที่ยังส่งไม่ถึงขาดเพียง 2,895 กระสอบ เบี้ยปรับจึงควรลดลงตามส่วน จึงให้จำเลยใช้เบี้ยปรับ 400,000.00 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า หาได้มีกฎหมายห้ามมิให้ทำสัญญาตกลงรับผิดถึงเหตุสุดวิสัยไม่ แม้แต่การใดเป็นการผิดแผกแตกต่างกับบทบัญญัติของกฎหมาย ถ้ามิใช่กฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแล้ว เพียงแต่เหตุเท่านั้นก็ยังหาเป็นโมฆะไม่ การที่จำเลยพอใจทำสัญญายินยอมรับผิดตลอดถึงเหตุสุดวิสัยนั้นหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างใดไม่ ส่วนข้อที่จำเลยคัดค้านว่าศาลใช้ดุลยพินิจให้จำเลยใช้เบี้ยปรับโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงว่าจะมีเหตุสุดวิสัยหรือไม่นั้น เห็นว่าแม้จะมีเหตุสุดวิสัยหรือไม่ จำเลยก็ยังต้องรับผิดตามสัญญาที่ได้ทำให้ไว้แก่โจทก์และตามสัญญาจำเลยยอมให้โจทก์ปรับเป็นเงิน 8 แสนบาทเศษ ศาลทั้งสองคำนวณตามปริมาณข้าวที่จำเลยผิดสัญญาแล้วลดลงมาเหลือเพียง 400,000.00 บาท เป็นการใช้ดุลยพินิจสมควรแก่เรื่องแล้ว
พิพากษายืน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8
ผู้พิพากษา
มนูภันย์ วิมลสาร
เลขวณิช ธรรมวิทักษ์
มนูกิจ วิมลอรรถ
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา