แชร์

แม้จำเลยไม่ได้ให้การว่าโจทก์ต้องร่วมรับผิดศาลก็กำหนดค่าเสียหายเพียงกึ่งหนึ่งได้ 

อัพเดทล่าสุด: 29 พ.ค. 2024
225 ผู้เข้าชม
แม้จำเลยไม่ได้ให้การว่าโจทก์ต้องร่วมรับผิดศาลก็กำหนดค่าเสียหายเพียงกึ่งหนึ่งได้ 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3844/2538 

คำพิพากษาย่อสั้น
     หนี้ละเมิดอันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณข้อสำคัญคือความเสียหายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 442 ประกอบด้วยมาตรา 223 แม้จำเลยจะมิได้ให้การว่าโจทก์จะต้องร่วมรับผิดด้วยก็ตามเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์และจำเลยต่างประมาทเลินเล่อด้วยกันศาลชอบที่จะกำหนดให้จำเลยรับผิดเพียงกึ่งหนึ่งของค่าเสียหายทั้งหมดได้ 

คำพิพากษาย่อยาว
     โจทก์ฟ้องว่ามีคนร้ายปลอมลายมือชื่อโจทก์ลงในเช็คของโจทก์ที่คนร้ายลักเอาไปไปเบิกเงิน จากบัญชีของโจทก์  จำเลยประมาทเลินเล่อจ่ายเงินให้คนร้ายไปและหักเงินจากบัญชีกระแสรายวันของโจทก์  ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 537,700 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย  จำเลย ให้การว่าพนักงานของจำเลยได้ปฏิบัติตามขั้นตอนก่อนจ่ายเงินตามเช็คโดยรอบคอบทุกประการ เชื่อโดยสุจริตว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คเป็นลายมือชื่อโจทก์ หากเช็คฉบับนี้ถูกคนร้ายลักเอาไปและทำการปลอมลายมือชื่อของโจทก์ลงในเช็คก็เกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ของโจทก์ที่ไม่เก็บรักษาเช็คไว้ในที่ปลอดภัยและเมื่อเช็คถูกคนร้ายลักไปก็มิได้แจ้งให้จำเลยทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นการผิดเงื่อนไขที่โจทก์ทำไว้กับจำเลย  ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 510,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ด ครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2532 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องไม่เกิน 27,700 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีสิทธิหักเงินตามเช็คออกจากบัญชีของโจทก์จำนวน 255,000 บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พฤติการณ์ของโจทก์เช่นนี้นับได้ว่าโจทก์ละเลยไม่ระมัดระวังเก็บรักษา สมุดเช็คดังกล่าวด้วยความรอบคอบเมื่อโจทก์ขาดความระมัดระวังในการเก็บรักษาจึงมีส่วนก่อ ให้เกิดความเสียหายด้วย  ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่ได้ต่อสู้ว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดก่อให้เกิด ความเสียหายจะต้องร่วมรับผิดด้วยการที่ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยให้โจทก์ร่วมรับผิดกับจำเลยจึงไม่ชอบนั้นเห็นว่า  แม้จำเลยจะไม่ได้ให้การว่าโจทก์จะต้องร่วมรับผิดด้วยก็ตามแต่หนี้ละเมิดอันจะ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อสำคัญก็คือว่าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหนเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียงไร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442 ประกอบกับ มาตรา 223 และเมื่อฟังว่าโจทก์มี ส่วนก่อให้เกิดความเสียหายด้วยที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ให้แก่ โจทก์กึ่งหนึ่งเป็นเงิน 255,000 บาท โดยวิธีปรับปรุงยอดหนี้ในบัญชีเบิกเงินเกินบัญชีที่โจทก์ทำ ไว้กับจำเลยให้ลดน้อยลงนั้นชอบแล้วฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 672
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008 

ผู้พิพากษา
อุระ หวังอ้อมกลาง
เสริมพงศ์ วรยิ่งยง
เพ็ง เพ็งนิติ

แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ