ส่วนลดค่ารักษาพยาบาลเป็นสิทธิเฉพาะตัวผู้ตายจำเลยไม่พ้นความรับผิด

ส่วนลดค่ารักษาพยาบาลเป็นสิทธิเฉพาะตัวผู้ตายจำเลยไม่พ้นความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 806/2533
คำพิพากษาย่อสั้น
ผู้ตายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อนถึงแก่ความตาย ทางโรงพยาบาลคิดค่าใช้จ่ายแล้วลดค่ารักษาพยาบาลให้ครึ่งหนึ่งเนื่องจากผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน การที่ผู้ตายได้รับการลดค่ารักษาพยาบาลเป็นสิทธิของผู้ตาย ไม่เป็นผลให้ความรับผิดของจำเลยต้องลดลงไปด้วย จำเลยต้องรับผิดในค่าเสียหายส่วนนี้เต็มจำนวน โจทก์ซึ่งเป็นภริยาและบุตรของผู้ตายมีสิทธิเรียกค่าเหมารถพาญาติไปเยี่ยมผู้ตายก่อนถึงแก่ความตายได้ ค่าฉีดยาศพ ค่าจ้างรถบรรทุกศพ ค่าโลงศพ ค่าจัดงานศพ 5 วัน ค่าทำบุญครบ 7 วัน หรือ 100 วัน ค่าเลี้ยงพระ ค่าผ้าบังสกุลค่าติดกัณฑ์เทศน์ เป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นที่โจทก์มีสิทธิเรียกจากจำเลยผู้กระทำละเมิดได้.
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ขับรถบรรทุกของจำเลยที่ 1 ไปในทางการที่จ้างด้วยความประมาทเลินเล่อชนกับรถยนต์ที่สามีโจทก์ขับสวนทางมาเป็นเหตุให้สามีโจทก์ถึงแก่ความตาย รถยนต์เสียหาย โจทก์และบุตรขาดไร้ผู้อุปการะ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 520,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ผู้ตายเป็นผู้ก่อให้เกิดการชนกันขึ้นต้องรับผิดในความเสียหายด้วย ผู้ตายไม่ใช่ผู้เสียหาย ค่าเสียหายสูงเกินความเป็นจริง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 385,900 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 เป็นฝ่ายประมาทโดยผู้ตายไม่ได้ประมาทด้วย แล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า มีปัญหาต่อไปว่า การที่โจทก์ได้รับการลดค่ารักษาพยาบาลนั้น เป็นเหตุให้ความรับผิดของจำเลยลดลงหรือไม่ โจทก์มีใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลเอกสารหมาย จ.6 มาแสดงเป็นเงิน 10,055 บาท และโจทก์เบิกความว่าโรงพยาบาลพุทธชินราชคิดค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นประมาณ 20,000 บาทเศษ เนื่องจากผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจึงได้รับการลดค่ารักษาพยาบาลลงครึ่งหนึ่ง ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.7 จำเลยไม่มีพยานมาหักล้างว่าความเป็นจริงมิได้เป็นไปตามที่โจทก์เบิกความ การที่โจทก์ได้รับการลดค่ารักษาพยาบาลเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้ตาย ไม่เป็นผลให้ความรับผิดของจำเลยต้องลดลงไปด้วย จำเลยยังต้องมีความรับผิดในค่าเสียหายเรื่องนี้เท่าเดิมศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยปัญหานี้ชอบแล้ว
ค่าเดินทางไปเยี่ยมคนเจ็บนั้น จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าสามารถเดินทางโดยรถประจำทางได้ ค่ารถประจำทางวันละ 50 บาท รวม 20 วันเป็นเงินไม่เกิน 1,000 บาทนั้น นายประยูร สังข์ทอง พยานของโจทก์เบิกความว่า โจทก์เหมารถของตนเพื่อนำญาติพี่น้องไปเยี่ยมผู้ตายทุกวันจนผู้ตายถึงแก่กรรมวันละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาทจึงเห็นได้ว่าโจทก์มิได้ไปเยี่ยมผู้ตายเพียงคนเดียว ที่ศาลล่างทั้งสองได้ลดลงเหลือวันละ 300 บาท เป็นเงินรวม 6,000 บาทศาลฎีกาเห็นว่าเหมาะสมแล้ว
ค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นซึ่งจำเลยที่ 1 ฎีกาว่าไม่ควรเกิน 10,000 บาทนั้น เห็นว่าศาลล่างทั้งสองได้พิจารณารายละเอียดทุกรายการ เช่น ค่าฉีดยาศพ ค่าจ้างรถบรรทุกศพของผู้ตายจากจังหวัดพิษณุโลกมาอำเภอสวรรคโลก ค่าโลงศพ ค่าจัดงานศพ 5 วันค่าทำบุญครบ 7 วัน ค่าเลี้ยงพระ เลี้ยงแขก ค่าติดกัณฑ์เทศน์ค่าผ้าบังสกุล ค่าทำบุญครบ 100 วัน ซึ่งโจทก์คำนวณมาเป็นเงิน40,000 บาท และกำหนดค่าเสียหายในส่วนนี้ให้โจทก์เป็นเงิน29,900 บาทนั้น เป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นและเหมาะสมแล้ว ฯลฯ
พิพากษายืน.
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443
ผู้พิพากษา
ไมตรี กลั่นนุรักษ์
บุญส่ง คล้ายแก้ว
นำชัย สุนทรพินิจกิจ
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


