แชร์

ผู้ตายเป็นบุตรบุญธรรมและยังเป็นผู้เยาว์ ผู้รับบุตรบุญธรรมเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ทำละเมิดได้

อัพเดทล่าสุด: 31 พ.ค. 2024
324 ผู้เข้าชม

ขณะที่ผู้ตายถูกทำละเมิดถึงตาย ผู้ตายเป็นบุตรบุญธรรมของโจทก์ที่ 2 และผู้ตายยังเป็นผู้เยาว์อยู่ โจทก์ที่ 2 ผู้รับบุตรบุญธรรมเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ทำละเมิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2517

คำพิพากษาย่อสั้น
     ขณะที่ผู้ตายถูกทำละเมิดถึงตาย ผู้ตายเป็นบุตรบุญธรรมของโจทก์ที่ 2 และผู้ตายยังเป็นผู้เยาว์อยู่ โจทก์ที่ 2 ผู้รับบุตรบุญธรรมเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ทำละเมิดได้

คำพิพากษาย่อยาว
     โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 และนางปราณีภรรยา เป็นบิดามารดาของนายวิวัฒน์ ช่วยเชษฐ์ โจทก์ที่ 2 เป็นผู้รับนายวิวัฒน์ไว้เป็นบุตรบุญธรรม โดยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย นายวิวัฒน์จึงใช้นามสกุลตามโจทก์ที่ 2 ว่า โภคสุพัฒน์ จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์บรรทุกในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 โดยประมาท เป็นเหตุให้ชนรถจักรยานยนต์ ส.บ. 01727 ซึ่งนายวิวัฒน์ โภคสุพัฒน์ เป็นผู้ขับขี่ นายวิวัฒน์ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดในการละเมิดของจำเลยที่ 1 ลูกจ้าง จึงขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น 224,900 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ

     จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ที่ 1 ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่ใช่ผู้ปกครอง โจทก์ที่ 2 ไม่มีสิทธิฟ้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 จริง แต่มิได้กระทำการในทางการที่จ้างและนอกหน้าที่ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิด และจำเลยที่ 1 มิได้ขับรถโดยประมาท โจทก์มิได้เสียหายมากมายดังฟ้อง

     ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 70,900 บาทแก่โจทก์ โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีจำนวนเงิน 10,900 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขอนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
     ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะค่าขาดไร้อุปการะเป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ให้โจทก์ที่ 1 เพียงผู้เดียวเป็นเงิน 50,000 บาท ให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ 1,000 บาทนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 2 ฎีกา
     ในปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า โจทก์ที่ 2 ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์ที่ 2 ไม่มีสิทธิจะรับมรดกหรือได้รับประโยชน์จากผู้ตายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ที่ 2 มิได้ฟ้องเรียกมรดกหรือประโยชน์อันใดของผู้ตาย ทั้งศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษาแก้ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์ที่ 1 แต่ผู้เดียวเท่านั้น และจำเลยก็ยอมรับในคดีแพ่งนี้แล้วว่า โจทก์ทั้งสองเสียหายแน่ อันเป็นการรับว่าโจทก์ที่ 2 เป็นผู้เสียหายด้วย นอกจากนั้นขณะที่ผู้ตายถูกทำละเมิดถึงตาย ผู้ตายยังเป็นผู้เยาว์อยู่ โจทก์ที่ 2 ผู้รับบุตรบุญธรรมเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองโจทก์ที่ 2 จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงในข้ออื่น โดยเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ แล้วพิพากษายืน

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1541
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1586

ผู้พิพากษา
สรรเสริญ ไกรจิตติ
เพรียบ หุตางกูร
รื่น วิไลชนม์

แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ