การนำรถไปล้างก็โดยผู้บังคับบัญชาใช้ให้ไป ถือได้ว่าลูกจ้างนั้นได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของนายจ้าง

แม้ลูกจ้างนั้นไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการขับรถยนต์ แต่การนำรถไปล้างก็โดยผู้บังคับบัญชาใช้ให้ไป ถือได้ว่าลูกจ้างนั้นได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของนายจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811-1812/2516
คำพิพากษาย่อสั้น
ลูกจ้างของกรมทางหลวงแผ่นดินประจำหน่วยควบคุมและตรวจสอบวัสดุก่อสร้างทางซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์วิจัยดิน หิน กรวด ไม่มีหน้าที่ในการขับรถยนต์ ได้ขับรถยนต์ของกรมทางหลวงแผ่นดินไปล้างโดยช่างตรีผู้บังคับบัญชาใช้ให้ไป เมื่อล้างเสร็จได้ขับรถกลับที่พักแต่ระหว่างทางได้ขับรถแวะไปเอาของที่บ้านพี่สาว และเกิดชนกับรถยนต์อื่นโดยประมาท เป็นเหตุให้คนตาย แม้ลูกจ้างนั้นไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการขับรถยนต์ แต่การนำรถไปล้างก็โดยผู้บังคับบัญชาใช้ให้ไป และการล้างรถก็เป็นกิจการของกรมทางหลวงแผ่นดินย่อมถือได้ว่าลูกจ้างนั้นได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของนายจ้าง ซึ่งกรมทางหลวงแผ่นดินผู้เป็นนายจ้างจะต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิด (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2516)
คำพิพากษาย่อยาว
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยโจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 โดยประมาท ชนกับรถยนต์ที่บุตรของโจทก์ทั้งสองนั่งมาเป็นเหตุให้บุตรของโจทก์ถึงแก่ความตาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ และโจทก์มิได้ขอให้ศาลสั่งว่า ขาดนัด ศาลสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์โดยพลการ นอกทางการที่จ้าง
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองสำนวน
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ประจำหน่วยควบคุมและตรวจสอบวัสดุก่อสร้างทางสายสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า ทำหน้าที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์วิจัยดิน หิน กรวด ไม่มีหน้าที่ในการขับรถ อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของนายเฉลิม ช่างตรีกองวิเคราะห์วิจัย กรมทางหลวงแผ่นดินจำเลยที่ 2 รถยนต์คันเกิดเหตุนี้ใช้ในกิจธุระของกรมทางหลวง อยู่ในความควบคุมของนายศุภวิทย์ อารยพงศ์ นายช่าง ควบคุมโครงการ ถ้านายศุภวิทย์ไม่อยู่ ก็มอบหมายให้ช่างตรีคนใดคนหนึ่งควบคุมแทนในวันเกิดเหตุนายเฉลิมนำรถคันเกิดเหตุไปใช้และนำกลับมาไว้ ณ ที่พัก แล้วนายเฉลิม ใช้ให้จำเลยที่ 1 นำรถไปล้างที่ปั๊มน้ำมันสามทหาร เสร็จแล้วได้ขับกลับที่พัก ระหว่างทางได้แวะไปเอาของที่บ้านพี่สาวของจำเลยที่ 1 จึงเกิดเหตุไปกระแทกกับรถยนต์คันที่บุตรโจทก์ทั้งสองนั่งมา เป็นเหตุให้บุตรโจทก์ทั้งสองถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 ถูกศาลพิพากษาจำคุกฐานขับรถประมาท คดีถึงที่สุดแล้ว
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า การที่ลูกจ้างของกรมทางหลวงแผ่นดินประจำหน่วยควบคุมและตรวจสอบวัสดุก่อสร้างทางมีหน้าที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์วิจัยดิน หิน กรวด ไม่มีหน้าที่ในการขับรถยนต์ ได้ขับรถยนต์ของกรมทางหลวงแผ่นดินไปล้าง โดยช่างตรีผู้บังคับบัญชาใช้ให้ไป เมื่อล้างเสร็จ ได้ขับรถกลับที่พัก แต่ระหว่างทางได้ขับรถแวะไปเอาของที่บ้านพี่สาว และเกิดชนกับรถยนต์อื่นโดยประมาท เป็นเหตุให้คนตาย เช่นนี้ แม้จำเลยที่ 1 ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการขับรถยนต์ก็ตาม แต่การที่จำเลยที่ 1 นำรถไปล้างก็โดยผู้บังคับบัญชาใช้ให้ไป และการล้างรถก็เป็นกิจการของจำเลยที่ 2 ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ฉะนั้นจำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมกันรับผิดชอบกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยที่ 1 ได้กระทำนั้น
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลยที่ 2
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
ผู้พิพากษา
อุทัย ศุภนิตย์
สวัสดิ์ ภู่งาม
วิทูร เทพพิทักษ์
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาล


