แม้จะไม่ได้รับคำสั่งจากนายจ้าง แต่งานดังกล่าวก็เป็นงานของนายจ้างโดยตรง

แม้จะมิได้รับคำสั่งจากนายจ้าง แต่งานดังกล่าวก็เป็นงานของนายจ้างโดยตรง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3500/2530
คำพิพากษาย่อสั้น
ขณะที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเลยที่ 2 โดยประมาท ชนรถจักรยานยนต์ที่บุตรโจทก์ขับขี่เป็นเหตุให้บุตรโจทก์และผู้นั่งซ้อนท้ายถึงแก่ความตายนั้น จำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 และได้รับคำสั่งจากจำเลยที่ 2 ให้นำรถยนต์คันเกิดเหตุไปปฏิบัติงานที่การไฟฟ้าจังหวัดอ่างทอง ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน จำเลยที่ 1 ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปช่วยยกเสาไฟฟ้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยจำเลยที่ 2 มิได้สั่ง แม้ว่าจำเลยที่ 1 จะมิได้รับคำสั่งจากจำเลยที่ 2 แต่งานดังกล่าวก็เป็นงานของจำเลยที่ 2 โดยตรงประกอบกับจำเลยที่ 2 มอบให้จำเลยที่ 1 นำรถยนต์ที่ใช้ประจำอยู่ในกรุงเทพมหานครไปใช้ต่างจังหวัด เป็นการมอบให้จำเลยที่ 1 มีหน้าที่ควบคุมดูแลรถยนต์นั้นจนกว่าจะนำกลับมาส่งมอบยังสถานที่เดิมการที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันดังกล่าวในคืนเกิดเหตุจึงเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย.
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นมารดาของนายจำลอง สภาพพร ผู้ตาย จำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงชนรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ตายขับขี่และนายประสงค์ หน้างาม นั่งซ้อนท้าย เป็นเหตุให้บุคคลทั้งสองถึงแก่ความตาย ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายและค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดูรวมเป็นเงิน 174,260 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ 1 มิได้กระทำละเมิด หากจำเลยที่ 1 กระทำผิดจริงก็เป็นการกระทำนอกทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม และโจทก์เรียกค่าเสียหายสูงเกินไป
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 135,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 โดยประมาท ชนรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่มาและผู้นั่งซ้อนท้ายถึงแก่ความตายจริงแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ขณะจำเลยที่ 1 กระทำผิด จำเลยที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ได้รับคำสั่งจากจำเลยที่ 2 ให้นำรถยนต์คันเกิดเหตุไปปฏิบัติงานที่การไฟฟ้า อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง เพื่อก่อสร้างขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้า จำเลยที่ 1 ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปช่วยยกเสาไฟฟ้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน โดยจำเลยที่ 2 มิได้สั่ง เห็นว่าแม้จำเลยที่ 1 จะมิได้รับคำสั่งจากจำเลยที่ 2 แต่งานดังกล่าวก็เป็นงานของจำเลยที่ 2 โดยตรง ประกอบกับจำเลยที่ 2 มอบให้จำเลยที่ 1 นำรถยนต์ที่ใช้ประจำอยู่ในกรุงเทพมหานครไปใช้ต่างจังหวัด เป็นการมอบให้จำเลยที่ 1 มีหน้าที่ควบคุมดูแลรถยนต์นั้นจนกว่าจะนำกลับมาส่งมอบยังสถานที่เดิม นอกจากนี้ได้ความจากนายจุมพฏ ศรีสุกใส พยานจำเลยซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง ว่าได้เคยอนุญาตให้จำเลยที่ 1 นำรถยนต์คันเกิดเหตุไปพักนอนที่จังหวัดอ่างทองเสมอ การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ดังกล่าวในคืนเกิดเหตุจึงเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วยฯลฯ
พิพากษายืน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
ผู้พิพากษา
อรรถวิทย์ วรรธนวินิจ
ดุสิต วราโห
สวัสดิ์ รอดเจริญ
แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


