แชร์

จำเลยมีหน้าที่ปิดเปิดแผงกั้นถนนตรงริมทางรถไฟจะผ่าน จำเลยนอนหลับ ถือว่าเป็นการละเมิด

อัพเดทล่าสุด: 4 มิ.ย. 2024
132 ผู้เข้าชม

จำเลยมีหน้าที่ปิดเปิดแผงกั้นถนนตรงริมทางรถไฟจะผ่าน จำเลยนอนหลับ ถือว่าเป็นการละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559-1560/2504

     การละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 มีความหมายรวมทั้งการกระทำและละเว้นการกระทำอันบุคคลนั้น ๆ จะต้องกระทำด้วย และคำว่า "กระทำ" ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 425 ซึ่งให้นายจ้างร่วมรับผิดกับลูกจ้าง ก็หมายถึงการกระทำหรือละเว้นการกระทำตามนับที่กล่าว ในเมื่อการกระทำหรือละเว้นนั้นเป็นไปในทางการที่จ้างนายจ้างก็ต้องรับผิด

     โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นคนงานหรือลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ มีหน้าที่ปิดเปิดแผงกั้นถนนตรงริมทางรถไฟจะผ่านและผ่านไปแล้ว จำเลยที่ ๑ นอนหลังไม่ได้เอาแผงกั้นถนนเป็นเหตุให้รถไฟของจำเลยที่ ๒ ชนรถยนต์ที่โจทก์นั่งผ่านมา ทำให้โจทก์บาดเจ็บเสียหาย ขอให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหาย

     ข้อเท็จจริงได้ความว่า ตรงถนนซึ่งทางรถไฟผ่านซึ่งเป็นที่เกิดเหตุทางการรถไฟได้ทำเครื่องกีดกั้นทางจราจรยวดยานอื่นที่จะผ่านทางรถไฟในขณะเมื่อจะมีรถไฟผ่านไปมา เครื่องกีดกั้นนั้นยกขึ้นลงด้วยเครื่องกว้าน จำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าหน้าที่ในการนี้ เมื่อเวลาจะมีรถไฟผ่าน จำเลยที่ ๑ ก็เลื่อนเครื่องกีดกั้นถนน เมื่อรถไฟผ่านไปแล้ว จำเลยที่ ๑ ก็ยกเครื่องกีดกั้นถนนให้ยวดยานต่าง ๆ ผ่านไปได้ และจำเลยที่ ๑ ยังมีหน้าที่ให้ไฟสัญญานไฟแก่พนักงานขับรถไฟด้วย ขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ ๑ นอนหลับไม่ได้ปิดกั้นถนนและไม่ได้ให้สัญญาณรถไฟผ่าน

     ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยต้องกันว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการละเมิดต่อโจทก์และเป็นการกระทำซึ่งจำเลยที่ ๒ ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดด้วย

จำเลยที่ ๒ ฎีกา
     ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ ๑ ซึ่งมีหน้าที่กั้นทาง นอนหลับเสียไม่กระทำการปิดกั้นทางรถไฟในเมื่อรถไฟจะผ่าน เป็นการละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่กระทำการป้องกันภัยสาธารณ ซึ่งเป็นหน้าที่ต้องกระทำเป็นประจำ ถ้าหากจำเลยที่ ๑ ปฏิบัติการปิดกั้นทางเสียก่อนที่รถไฟจะผ่าน รถยนต์ที่โจทก์นั่งไปก็ไม่อาจผ่านเข้าไปถึงทางรถไฟ เหตุร้ายก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ เหตุที่เกิดขึ้นจึงเป็นผลโดยตรงจากการที่จำเลยที่ ๑ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ การละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๒๐ นั้น มีความหมายรวมทั้งการกระทำและละเว้นการกระทำอันบุคคลนั้น ๆ จะต้องกระทำด้วย ฉะนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ ในกรณีนี้เป็นการละเมิดโจทก์และวินิจฉัยว่า คำว่า "กระทำ" ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔๒๕ ซึ่งให้จ้างร่วมรับผิดกับลูกจ้างก็ย่อมหมายถึงการกระทำหรือละเว้นการกระทำตามนัยแล้ว ในเมื่องการกระทำหรือละเว้นนั้นเป็นไปในทางการที่จ้าง นายจ้างก็+รับผิด และคำว่า "ในทางการที่จ้าง" ก็หมายถึงว่า เมื่อลูกจ้างกระทำการอันกับทางการที่จ้างแล้วไปทำละเมิดแก่บุคคลอื่น นายจ้างก็ต้องรับผิด พิพากษายืน

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 420 425 ป.พ.พ. ม.420 ม.425


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ