ขับรถที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น

ขับรถที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5829/2549
คำพิพากษาย่อสั้น
การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ โดยนั่งโยกตัวไปมาเพื่อไม่ให้รถเสียหลักล้ม ย่อมเป็นการอำนวยความสะดวกให้จำเลยที่ 1 สามารถขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงแซงซ้ายแซงขวารถคันอื่นในลักษณะน่าหวาดเสียว ซึ่งเป็นการขับรถที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8) จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1
คำพิพากษาย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8), 160
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8), 160 วรรคสาม จำคุกคนละ 4 เดือน จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุกคนละ 2 เดือน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 20 วัน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุก 10 วัน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ โดยนั่งโยกตัวไปมาเพื่อไม่ให้รถเสียหลักล้ม การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดังกล่าวย่อมเป็นการอำนวยความสะดวกให้จำเลยที่ 1 สามารถขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงแซงซ้ายแซงขวารถคันอื่นในลักษณะน่าหวาดเสียวซึ่งเป็นการขับรถที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น อันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8) จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงมีความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่เป็นความผิดนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8), 160 วรรคสาม ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ปรับคนละ 1,500 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงปรับคนละ 750 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2.
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8)
ผู้พิพากษา
สุทัศน์ ศิริมหาพฤกษ์
สมศักดิ์ เนตรมัย
สุรศักดิ์ สุวรรณประกร


